Fic 002

Fic อาซามิ x เฟยหลง :: เพราะไม่เคยโดน มันถึงได้เป็นยังงี้ไงล่ะ ?!!~
Fiction ตอนสั้นๆ ตอนเดียวจบ : แต่งจากภาพ เห็นอะไร รู้สึกอยากเขียนยังไง ก็พิมพ์อย่างนั้น



เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา ดึงความสนใจของชายร่างสูงในสูทเนี๊ยบให้ละสายตาออกจากหนังสือพิมพ์ตรงหน้า

“ท่านอาซามิ ...”
“มีอะไร ?”
“จู่ๆรถส่งของ ของเราก็ถูกมือปืนยิงถล่มครับ”
“ว่าไงนะ ?!!” เจ้าของเสียงขวางหนังสือพิมพ์ลงพื้นอย่างหัวเสีย


“แล้วไงต่อ เหตุการณ์เป็นยังไง”
“ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ของยังอยู่ครบ เหมือนจะเป็นแค่การก่อกวนน่ะครับ”
“ก่อกวน ? .... ก่อกวนบ้าอะไรถึงขั้นเอาปืนมายิงถล่ม”


แม้จะไม่ได้คำตอบจากลูกน้อง อาซามิ ก็ไม่ได้สนใจแล้วว่าคนพวกนี้จะรู้หรือไม่ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไป ก่อนจะสูบเอานิโคตินเข้าไปเต็มปอด ควันสีเทาจางพวยพุ่งออกมา .... ขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น


“อาซามิ ริว .....” ยังไม่ทันได้แนะนำตัว ปลายสายก็สวนคำพูดขึ้นมาทันที
“อย่าหวังว่าเรื่องคราวก่อนฉันจะปล่อยไปง่ายๆนะ อาซามิ”
“เฟยหลง !!!”


ไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ปลายสายก็ตัดสายไปซะแล้ว


อาซามิ กระแทรกหูโทรศัพท์ลงอย่างแรง พลันทิ้งก้นบุหรี่ลงกับพรม แล้วดับมันด้วยเท้าจนเกิดรอยไหม้


“คนอย่าง หลิว เฟย หลง เข้ามาในญี่ปุ่นหาตัวไม่ยากหรอก ไปหามาซะว่าเขาอยู่ที่ไหน !!!!”

ชายร่างสูงกระแทกเสียงสั่งลูกน้องอย่างดัง เขาไม่ชอบใจเลยที่เฟยหลงยังคงมาวนเวียนสร้างความวุ่นวายให้กับเขาอยู่แบบนี้

..... ทำไมกันทั้งๆที่ ฉันตั้งใจทำให้นายเจ็บปวดมากแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังไม่ยอมเลิกรังควานฉัน ......


................................................................


ชายร่างสูงนั่งรอในห้องทำงานกว้างอย่างหงุดหงิด กระวนกระวาย นึกไปถึงเรื่องที่เขาเพิ่งไปชิงตัว ทาคาบะ อากิฮิโตะ มาเมื่อไม่นานนี้ เรื่องราวเพิ่งจะจบไปเท่านั้นเอง ตัวเขาก็เพิ่งไปฉลองอิสรภาพของอากิฮิโตะด้วยกันมาหมาดๆ แล้วพอกลับมา เฟยหลงยังไม่เลิกที่จะรังควานเขาอีก


..... จะตามตอแยไปถึงไหน .....


ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เรื่องราวในคืนฝนตกเมื่อ 7 ปีก่อนก็แล่นผ่านเข้ามาในหัวราวสายฟ้าผ่า เจ็บแปลบขึ้นมาในอกอย่างกะทันหัน จุกในลำคออย่างบอกไม่ถูก .... นั่นสิ เขาเคยทำเรื่องหนึ่งค้างคาไว้ ค้างคา ทั้งในความรู้สึกของเขา และใครอีกคน 


“ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำลายห้วงจินตนาการ
“เข้ามา” เสียงเรียบสั่ง
“เฟยหลง อยู่ที่ เพนท์เฮ้าส์ริมแม่น้ำครับ”
“แน่ใจ ?”
“พอได้ข่าวมา เราก็ส่งคนเข้าไปสืบจนแน่ชัดแล้วครับ ชั้นบนสุดไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปได้เลย”
“งั้นเหรอ ?”


รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ อาซามิขยับเน็คไท ก่อนจะลุกไปหยิบเสื้อสูท แล้วเดินออกไปที่หน้าลิฟท์


“จะไปไหนครับ ท่าน”
“ไปจับเสือใส่กรง”
“งั้นพวกผมจะ ....”

ไม่ต้อง ฉันจะขับรถไปเอง


บนหน้าปัดดิจิตอลของคอนโซลรถบอกเวลา 4 ทุ่ม 15 นาที แล้ว ถนนขาออกนอกเมืองมีรถบางเบา นานๆจะมีขับสวนมาสักคัน อาซามิ ครุ่นคิดถึงใบหน้าหนึ่งด้วยความหงุดหงิด แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นอมยิ้ม ..... ท่าจะบ้าแล้วเรา .....


เขาขับรถมาจอดที่จอดรถข้างๆตึกสูง แล้วเดินเท้าเข้าไปในตัวตึก ตรงขึ้นลิฟท์ และกดชั้น เพนท์เฮ้าส์


ประตูลิฟท์เปิดออกอย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ไม่ง่ายเลย คือบอดี้การ์ดจำนวนมากที่ยืนขวางทางเขาอยู่ ด้วยความสูง เขาจังมองเห็นว่าสิ้นสุดที่ปลายทางเดินนี้คือประตูบานใหญ่ที่เปิดไปสู่ห้องของเจ้าชายแห่งตระกูลหลิว


“.... อะ ... อาซามิ ... นายมาทำไมที่นี่ ?”


หนึ่งในบอดี้การ์ดถามอย่างละล่ำละลัก เพราะไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่า เจ้าพ่อยากูซ่า จะเดินทางมาที่ดงศัตรูด้วยตัวคนเดียว


“ไปบอกเจ้านายของพวกนาย ว่าฉันต้องการคุยด้วย”
“ท่านเฟย คงหลับไปแล้ว ไว้เดี๋ยวพวกเราจะแจ้งท่านเอง”
“ฉันอุตส่าห์ ให้เกียรติมาที่นี่ด้วยตัวเองเชียวนะ คนจีนเสียมรายาทอย่างนี้เลยเหรอ ?”


จบประโยค ประตูบานใหญ่ราวกับพระราชวังก็ค่อยๆแง้มออก เผยให้เห็นใบหน้าขาวเนียนที่ตัดกันกับเส้นผมสลวยสีดำสนิท สายตาแข็งกร้าวจ้องมองมายังคนที่อยู่หน้าลิฟท์อย่างไม่วางตา สักพักจึงกระซิบกับคนข้างๆ


“ท่านเฟยบอกให้นายเข้าพบได้ แต่กรุราให้เราตรวจค้นตัวก่อนด้วย เพราะนายคงรู้ว่าห้ามพกอาวุธเข้าไป”

“เข้าใจแล้ว”

อาซามิ เดินผ่านกรอบประตูบานใหญ่ เมื่อประตูถูกปิดลง เขาจัดการล็อคกลอนโดยที่เจ้าของห้องไม่รู้ตัว ร่างสูงในชุดสูทเดินตรงเข้ามายังคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ริมหน้าต่าง


“นั่งได้มั้ย ?” อาซามิเอ่ยถามอย่างผู้มาเยือน
“ตามสบาย”
“วันนี้ทำอะไรลงไป” เขาไม่รอช้าที่จะชำระความกับชายหนุ่มผมยาวในทันที
“จะให้ทำไงได้ ครั้งก่อนที่ปล่อยนายไป ฉันก็เสียหน้า นี่เป็นการเรียกความมั่นใจคืนจากพวกลูกน้องเท่านั้น”

“เรียกความมั่นใจคืน .... ไม่รุนแรงไปหน่อยเหรอ ?”
“ก็ไม่มีใครตายนี่”
“ใช่”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจให้ใครตายซะหน่อย แค่อยากจะ .....”

เฟยหลง ถึงกับชะงักและตาค้างกับสิ่งที่เห็น เมื่ออาซามิ เริ่มถอดเสื้อตัวเองออก

“นะ ... นาย ทำอะไร ?”
“มันร้อน”
“ฉันเปิดแอร์แล้ว อากาศก็เย็นสบาย นายจะร้อนได้ไง”
“แค่ถอดเสื้อ จะอะไรนักหนา”


เป็นประโยคที่ทำให้คนฟังชะงัก เพราะไม่รู้ว่าจะตอบโต้ยังไง ... แต่แล้วเฟยหลงก็นึกอะไรขึ้นมาได้


“ .... แล้ว อากิฮิโตะ ล่ะ ? เขาเป็นไงบ้าง ?”


แค่คิดว่าจะถามเพื่อแก้เกมส์ แต่กลายเป็นว่า อาซามิ จู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็วและกระชากเอาเสื้อคลุมของเขาออก เผยให้เห็นอกเนียนขาว ที่มีรอยแผลเป็นแห่งความทรงจำจากกระสุนเมื่อ 7 ปีก่อน


“เลิกยั่วโมโหฉันซะที เฟย”
“อย่ามาเรียกชื่อฉันห้วนๆแบบนั้นนะ”
“ทำไม ?”
“ทำไม .... จะถามว่าทำไมอีกเหรอ ปล่อยฉันแล้วกลับไปหาอากิฮิโตะเดี๋ยวนี้”
“นายเป็นใครมาสั่งฉัน !!!”


อาซามิ ประกบริมฝีปาก ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้าไปควานหาความหวานในปากเล็กของเฟยหลง ร่างที่ถูกทาบทับพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่เสื้อคลุมที่ถูกกระชากออก กลับเป็นตัวพันธนาการเขาไว้ให้ยิ่งรู้สึกอึกอัด ต่างกับคนตัวสูง ที่ตอนนี้มีเพียงแค่กางเกงขายาวเท่านั้น เฟยหลงรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบในทันที

แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ร่างของชายหนุ่มผมยาวก็ลอยขึ้นจากพื้น อาซามิ อุ้มเฟยหลงไปวางไว้บนเตียงอย่างแผ่วเบา แต่เจ้าตัวกลับรู้สึกว่านี่คือโอกาสหนี เฟยหลงรีบผลักอาซามิออกในทันที และพยายามที่จะก้าวลงจากเตียงใหญ่ แต่ช้าไปแล้ว ..... เมื่ออาซามิรวบตัวเขาไว้จากด้านหลัง


ตั้งแต่เรื่องเมื่อ 7 ปีก่อน ฉันเชื่อว่านายเคยนอนกับผู้ชายมาแล้วแน่ๆ

คำพูดนั้น เฟยหลงรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่


“หยุดพูดนะ”
“ไม่ ..... นายต้องบอกฉัน ว่านายเป็นฝ่ายทำ หรือว่าเคยถูกใครทำมาแล้ว”
“ฉันไม่เคยถูกใครทำทั้งนั้น !!!”
“จริงเหรอ ?”
คนอย่างฉัน ไม่เคยถูกใครเข้าข้างหลัง
“อา ..... ฉันเชื่อ.....”


คำตอบนั้นสร้างความพอใจให้ อาซามิ อย่างน่าประหลาด เขายิ้มอย่างผู้ชนะในขณะที่ เฟยหลง กำลังดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นอิสระ อาซามิ เริ่มไซร้ซอกคอ เฟยหลง จากด้านหลัง ก่อนจะขับกัดใบหูเล็กนั้นอย่างเอ็นดู

“เพราะไม่เคยโดน มันถึงได้เป็นยังงี้ไงล่ะ”


คำพูดของ อาซามิ ทำให้ เฟยหลง หน้าแดงไปจนถึงหู เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แม้แต่ร่างกายก็หยุดขัดขืน อาซามิ จึงได้ทีปรนเปรอ กามารมณ์ให้กับร่างตรงหน้า ..... เขาค่อยๆเลื่อนมือเขาไปนวดคลึงส่วนอ่อนไหวนั้นที่อยู่ในกางเกงชั้นใน ก่อนจะค่อยๆหยอกเย้ามันเป็นจังหวะ สร้างความสั่นสะท้านให้ร่างกายของ เฟยหลงได้ไม่น้อย สลับกันนั้นก็ไซร้ซอกคอ และพรมจูบลงบนตัวของ เฟยหลง อย่างไม่รู้เบื่อ ใช้มือข้างที่ว่างปัดผมออกจากใบหน้า ก่อนที่จะบรรจงจูบเฟยหลง อย่างดูดดื่ม เมื่อเห็นว่าส่วนแข็งชันตรงหน้าเริ่มมีน้ำเหนียวๆไสๆ ไหลออกมาบ้างแล้ว เขาก็ขยับมือไปนวดคลึงเส้นทางเล็กๆข้างหลังแทน


“อาซามิ ..... พอแล้ว พอเถอะนะ”
“ทำไม ? ..... ไม่อยากให้ฉันทำเรื่องที่ค้างไว้ตั้งแต่ 7 ปีก่อนนั่นเหรอ ?”
“...........................”





เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับ อาซามิ จึงเริ่มขยับนิ้วเข้าไปในทางเล็กด้านหลังอย่างช้าๆ เฟยหลง สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้ร่างสูงเป็นผู้กระทำต่อไป จนกระทั่งอาซามิขยับนิ้วเข้า-ออก เป็นจังหวะ เสียงหวานก็เล็ดลอดออกมาจากปากของหนุ่มผมยาวทันที


“ห้องนี้เก็บเสียงอยู่แล้ว ใช่มั้ย ?” ร่างสูงกระซิบถาม
“ ... ชะ ... ใช่ ...” เสียงตอบนั้นขาดหายเป็นช่วงๆ
งั้นก็ร้องให้ดังกว่านี้สิ


พูดจบ อาซามิ ก็เพิ่มความแน่นคับเข้าอีก 1 นิ้ว เขาขยับนิ้วเข้า-ออก เป็นจังหวะเช่นเคย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนปฏิกิริยาของคนตรงหน้าจะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เฟยหลง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาร้องครางอย่างกระหายใคร่อยาก อาซามิ มองดูใบหน้าที่ส่อกามารมณ์นั้นอย่างพึงพอใจ เขาจูบลงบนต้นคอของ เฟยหลง แล้วทำ คิสมาร์ค


“อา ... ซามิ ... พอแล้ว ฉัน ....”
“ทำไม ? นายจะเสร็จแล้วเหรอ ?”
“ไม่ ... ไม่ใช่ ... ฉัน ... ฉันยังไม่เคยโดนใครทำแบบ ... นี้


สิ่งที่ออกมาจากปาก เฟยหลง ทำให้ อาซามิ หยุดชะงัก นิ้วทั้ง 2 ของเข้ายังคงอยู่ในทางแคบ แต่มืออีกข้างกลับประคองใบหน้าของ เฟยหลง ให้หันมาสบตาเขาอย่างง่ายดาย


“ฉันเป็นคนแรกของนายไม่ใช่เหรอ ..... ฉันก็ยังคงเป็นคนแรกของนาย เหมือนเดิมนั่นแหละ”


...................... สมมุติว่า จบแล้ว ........................

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

1shot - VF 3p onsen